น้ำพริกอะไร…ชื่อแปลกจริงๆ แล้วจะทำยากมั๊ยนะ
ผักพระเอก

พริกชี้ฟ้าเขียว
เบต้าแคโรทีน มีสารต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน
แคปไซซิน ลดระดับน้ำตาลในเลือด เพิ่มความอยากรับประทานอาหาร ขับเสมหะ
เพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมัน
วิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดความรุนแรงของไข้หวัด
ส่วนผสม
ผัก
พริกชี้ฟ้าเขียว 60 กรัม
พริกจินดาแดง 20 กรัม
หอมแดง 15 กรัม
กระเทียม 5 กรัม
ผักรวม 100 กรัม
เนื้อสัตว์
เนื้อปลาทูนึ่ง 70 กรัม (ประมาณ 1 ตัว)
เครื่องปรุง
น้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนชา
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำปลาทูมาต้มให้สุก พักไว้ให้เย็นจึงค่อยแกะเอาเฉพาะเนื้อ เตรียมพริกชี้ฟ้ามาตัดก้านให้สั้น พริกแดงจินดาเด็ดขั้วออก ล้างน้ำให้สะอาด
2. นำพริกชี้ฟ้าเขียว พริกแดงจินดา กระเทียม และหอมแดง ไปเผา หรือคั่วบนกระทะโดยใช้ไฟอ่อนจนสุกเกรียม นำพริกชี้ฟ้าและพริกจินดามาลอกเปลือก
3. ผสมน้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลา คนให้เข้ากัน
4. นำส่วนผสมในข้อ 2 มาตำให้เข้ากันแต่ไม่ต้องละเอียดมาก จากนั้นนำน้ำปรุงในข้อ 3 มาผสมให้เข้ากัน
5. ถ้าน้ำพริกข้นไปสามารถเติมน้ำต้มสุกได้
6. ตักใส่ถ้วยจัดเสิร์ฟพร้อมผักแกล้ม เช่น มะเขือเปราะ ผักกาดหอม หรือรับประทานคู่กับไข่ยางมะตูม
คุณค่าทางโภชนาการ
พลังงาน 182 กิโลแคลอรี
คาร์โบไฮเดรต 20.1 กรัม
โปรตีน 18.8 กรัม
ไขมัน 3 กรัม
ใยอาหาร 2.3 กรัม
โซเดียม 1152.1 มิลลิกรัม
คอเลสเตอรอล 56 มิลลิกรัม
แคลเซียม 160.8 มิลลิกรัม
วิตามินเอ 135.4 IU