ใครจะรู้ว่ามะเขือเทศเป็นผลไม้โบราณที่มีมาตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ สมัยนั้นมะเขือเทศเป็นแค่วัชพืชที่ขึ้นตามไร่มันสำปะหลัง จึงไม่มีใครสนใจ
แต่ต่อมามีการพัฒนาสายพันธุ์ มนุษย์เราจึงเริ่มนำมาปลูกเป็นอาหาร ชนพื้นเมืองที่นำมะเขือเทศมาปลูกเป็นครั้งแรกคือ ชาวเอซเท็ค ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งต่อมากองทัพสเปนเข้าไปยึดเม็กซิโกมาเป็นอาณานิคม จึงนำมะเขือเทศกลับไปปลูกด้วย มะเขือเทศจึงกลายเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
มะเขือเทศเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานน้อยคือ 18 กิโลแคลอรี/100 กรัม มีวิตามินเอสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงสายตาและชะลอความเสื่อมของเซลล์ และถ้าทานมะเขือเทศสด จะได้รับวิตามินซีมากกว่าแบบปรุงอาหารคือ 16 มิลลิกรัม/100 กรัม หรือประมาณ 20 % ของความต้องการในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม การทานมะเขือเทศแบบปรุงผ่านความร้อนก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน เพราะในมะเขือเทศมีสารที่เรียกว่า “ไลโคปีน” ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งต่อมลูกหมาก ความร้อนจากการปรุงอาหารจะช่วยให้ไลโคปีนสลายตัวออกมาจากเนื้อเยื่อของมะเขือเทศได้มากขึ้น
มะเขือเทศใช้ทำอาหารได้หลากหลาย มาดูไอเดียจานเด็ดจากมะเขือเทศ พร้อมขั้นตอนให้ลองไปทำกันนะคะ
มะเขือเทศอบชีส
- หั่นแบ่งครึ่งมะเขือเทศ หยดน้ำมันมะกอกลงไป โรยเกลือและพริกไทยดำ โปะพาร์มีซานชีสลงไปด้านบน
- นำไปอบจนชีสเยิ้มและมะเขือเทศสุกนิ่ม พร้อมเสิร์ฟ
ไข่เจียวมะเขือเทศ
- หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นๆ
- ตอกไข่และตีไข่ จากนั้นใส่มะเขือเทศลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วและน้ำตาล
- ใส่น้ำมันในกระทะ และเจียวไข่
ซอสพาสต้า
- เตรียมอ่างน้ำแข็งผสมน้ำและต้มน้ำให้เดือด เตรียมไว้
- นำมะเขือเทศ 5-6 ลูก ใส่ในน้ำเดือด ประมาณ 45 วินาที แล้วตักขึ้นมาแช่ลงในอ่างน้ำแข็งผสมน้ำอย่างรวดเร็ว ลอกเปลือกออกให้สวยงาม
- ผ่ามะเขือเทศออก ขูดเอาเมล็ดออกให้หมด ใส่ภาชนะ เตรียมไว้
- ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ ใส่หอมใหญ่กับพริกหวานลงไปผัดจนสุกนิ่ม ตามด้วยกระเทียม ผัดผสมให้เข้ากันพอมีกลิ่นหอม
- ใส่มะเขือเทศลงไปเคี่ยว 10-15 นาที ตามด้วยใบโหระพา เกลือป่น พริกไทยดำป่น น้ำตาลทราย พาร์สลีย์ พริกป่น ออริกาโน่ ใบกระวาน วูสเตอร์ซอส ซอสมะเขือเทศเข้มข้น และน้ำเลมอน เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนข้นเนียนละเอียดตามชอบ
- พักซอสพาสต้าจนเย็น ตักบรรจุใส่ขวด ปิดฝา เก็บแช่ตู้เย็น
น้ำมะเขือเทศปั่น
- ล้างมะเขือเทศให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ๆ
- นำมะเขือเทศใส่หม้อใช้ไฟกลางหมั่นคนจนสุก ใช้เวลา 20-30 นาที (ไม่ต้องเติมน้ำเปล่า หรือเกลือป่น)
- นำมะเขือเทศต้มสุกมากรองเอาแต่น้ำ จะได้น้ำมะเขือเทศสีแดงสวย
ขอบคุณที่มา
- https://cooking.kapook.com/view157036.html
- https://amprohealth.com/food/tomato/
- วิมล ศรีศุข, ‘กินมะเขือเทศอย่างไรได้ไลโคปีน (lycopene) สูง,’ สำนักข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลมะเขือเทศสด